ในหลวง ทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรฝนหลวง ทรงมีพระราชดำรัส ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาบ้านเมือง ทรงห่วงประเทศกำลังล่มจม เพราะต่างคนทำ ต่างคนต่างแย่งชิง ไม่เข้าใจกัน ทรงแนะทุกคนต้องร่วมมือกัน ต้องเสียสละ ขอให้ผู้มีความรู้พาบ้านเมืองรอดพ้นภัย สร้างความเจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริง
เมื่อ เวลา 18.08 น. วันที่ 21 ส.ค.52 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี นำนายอานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และคณะจำนวน 23 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสิทธิบัตรฝนหลวงซึ่งออกโดยสำนักสิทธิบัตรของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป จำนวน 10 ประเทศ กับสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งออกโดยสำนักสิทธิบัตรเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายจดหมายเหตุสิทธิบัตรฝนหลวง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติจัดทำขึ้นโดยรวบรวมการดำเนินการจด ทะเบียนสิทธิบัตรฝนหลวง ระหว่างปี พ.ศ. 2545 - 2550พร้อมทั้งขอพระราชทานพระราชดำริเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงาน
สิทธิ บัตรฝนหลวง ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำเนินการขอรับสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย โดยมีสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนิน การ และได้ยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรฝนหลวงในพระปรมาภิไธย ต่อสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปในชื่อเรื่อง Weather Modification by Royal Rainmaking Technology ซึ่งสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรนี้แล้ว โดยสิทธิบัตรดังกล่าว มีผลคุ้มครองครอบคลุมประเทศต่างๆ ในกลุ่มสหภาพยุโรป จำนวน 30 ประเทศ แต่มี 10 ประเทศ ที่ออกเป็นสิทธิบัตรแยกแต่ละประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐไซปรัส ราชอาณาจักรเดนมาร์ก สาธารณรัฐฝรั่งเศส สาธารณรัฐเฮเลนิค ราชรัฐโมร็อกโก ประเทศโรมาเนีย สาธารณรัฐตุรกี สาธารณรัฐแอลแบเนีย สาธารณรัฐลิทัวเนีย และประเทศมาซิโดเนีย
สำหรับ สิทธิบัตรที่ออกโดยสำนักสิทธิบัตรเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้รับการขยายความคุ้มครองมาจากสิทธิบัตรของสำนักงานสิทธิบัตรยุโรปเช่นกัน
ใน โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำรัสให้ตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมมือในการปฎิบัติกิจการงาน ต่างๆ ไม่เอาเปรียบกัน อันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
หลัก ของการร่วมมือกัน เป็นการที่ใช้ได้ ใช้การได้ ถ้าไม่ใช้การสิทธิบัตรก็ไม่ได้ร่วมมือกัน แต่นี่ร่วมมือกันด้วยดี ร่วมมือจนกระทั่งในท้องที่นั้น จะเห็นได้ว่าทุกคนมีความสามัคคีช่วยกันทำ แล้วถ้าทำต่อเนื่องก็เชื่อว่าในบริเวณนั้นจะพัฒนาขึ้นมาได้อย่างดี พวกท่านที่มาในวันนี้ก็ถือว่าเป็นนิมิตรที่ดีสำหรับประเทศ เพราะว่าประเทศต้องการการพัฒนา และพัฒนามาขึ้นขั้นสูงแล้ว ถ้าทำต่อไปก็เชื่อว่าประเทศจะมีความเจริญ
ความ เจริญจะมาถึงด้วยการใช้ทรัพยากรของประเทศซึ่งมีอยู่ แต่ก่อนไม่เคยนึกว่าจะสามารถทำ ข้าพเจ้าไม่เคยนึกว่าจะทำได้อย่างนี้ แต่นี่ทำได้เพราะว่าประชาชนร่วมมือกัน ทางราชการทุกส่วนได้ร่วมมือกัน ซึ่งมหัศจรรย์จริงๆ ก็เลยอยากจะบอกกับท่านว่า งานที่ท่านทำนั้นดีมาก ที่ท่านร่วมมือกัน แล้วก็จะไม่มีวันถอย ประเทศชาตจิจะเจริญรุ่งเรือง
ข้าพเจ้า ไม่รู้จะบอกอะไรว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาอย่างมหัศจรรย์ ถ้าบอกกันไปแล้วว่า ทุกคนตั้งใจจะทำ ก็ได้ทำให้เกิดขึ้นได้ เกิดขึ้นได้เพราะการร่วมมือของแต่ละคนที่อยู่ในท้องที่ ไม่ใช่ของคน แต่ทุกคนที่ร่วมมือกัน
ที่ บอกว่ามหัศจรรย์อาจจะดูเกินไป แต่ความจริงเป็นมหัศจรรย์จริงๆ คนที่ไปดูสมัยก่อนว่าเริ่มต้นไม่มีอะไรเลย แต่ว่าต่อมาก็ภายในวันเดียวทุกคนที่อยู่ในท้องที่นั้นก็เข้าใจว่าต้องช่วย กัน และในระยะนี้เราต้องร่วมมือกัน ถ้าไม่มีการร่วมมือกันก็ไม่ก้าวหน้า ฉะนั้นการที่ท่านได้ทำแล้วก็มีความก้าวหน้านี้นั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก
หลัก การก็อยู่ที่ทุกคนต้องช่วยกัน เสียสละเพื่อให้กิจการในท้องที่ก้าวหน้าไปด้วยดี ก้าวหน้าไปได้อย่างไรก็ด้วยการช่วยเหลือกัน แต่ก่อนเคยเห็นว่ากิจการที่ทำก็มีคนกลุ่มหนึ่งทำแล้วก็ทำให้ก้าวหน้า แต่อันนี้ไม่ใช่กลุ่มหนึ่ง ทั้งหมด ร่วมกันทำแล้วก็มีความก้าวหน้าแน่นอน กลุ่มคนที่มีความรู้กลุ่มหนึ่งมาช่วยกันทำ ทั้งนักวิชาการ ทั้งผู้ที่รู้ มาช่วยกันทำด้วยความตั้งใจ ทำให้เกิดผล สิ่งที่ทำนี้จะทำให้บ้านเมืองก้าวหน้า ซึ่งบ้านเมืองทำได้ยากถ้าไม่ช่วยกัน
สิ่ง ที่เกิดขึ้นมาโดยยาก เพราะว่าข้าพเจ้าได้เห็นมานานแล้วว่า การทำความก้าวหน้านั้นไม่ใช่ง่ายๆ โดยมากถ้าทำความก้าวหน้าต้องมีคนที่มีความรู้มีคนที่มีทุน เราไม่มีทุนอะไร แต่ถ้าทำได้ ตั้งใจทำ เอาความรู้แต่ละคนนำมาใช้ ทางกระทรวงเกษตรฯ ทางกระทรวงมหาดไทย ทางกระทรวงอื่นๆ ทางประชาชนมาร่วมมือกัน โดยไม่นึกเอาเปรียบกันอันนี้สำคัญที่สุด เชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าดี บ้านเมืองจะสามารถพัฒนาขึ้นมาดี
โดย เฉพาะในระยะนี้บ้านเมืองของเรา คนของเราเรียกว่าบ้านเมืองกำลังล่มจม ไม่รู้ว่าจะไปไหน ไปอย่างไร เราก็รู้สึกเป็นห่วงว่า ประเทศไทยกำลังล่มจม แต่พวกท่านจะทำให้ไม่จมได้ ซึ่งต้องมีการพัฒนาสร้างให้ดีขึ้น การพัฒนาคือการสร้างให้ดีขึ้น สร้างบ้าน เมืองให้ก้าวหน้า ประชาชนมีความเจริญ
ที่ เล่าให้ท่านฟังเพราะว่า เราก็มีความหวัง มีความรู้สึกว่า บ้านเมืองจะไม่ล่มจม ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมา รู้สึกว่า บ้านเมืองของเรากำลังล่มจม เพราะว่าต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างแย่งกัน ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่าทำอะไร แต่ตอนนี้เข้าใจ เพราะว่าทุกคนกำลังทำ โดยเฉพาะอาศัยผู้มีความรู้อย่างท่านทั้งหลายทีได้มาร่วมมือกัน ท่านก็มีความรู้ต่างๆ กัน
ขอ ยืนยันว่า ถ้าทุกคนที่มีความรู้ มีความตั้งใจดี สามารถที่จะสร้างบ้านเมืองให้เจริญ เจริญโดยแท้จริง และขอให้ท่านช่วยกันทำ เพราะถ้าท่านไม่ช่วยกันทำ บ้านเมืองก็จะล่มจมจริงๆ อย่างนี้บ้านเมืองไม่ล่มจมแน่ ถ้าตั้งใจทำดีๆ บ้านเมืองจะก้าวหน้า ไม่ล่มจม |